ดูบอลไม่ให้กระตุก ทำยังไงให้ลื่นทุกแมตช์

ดูบอลไม่ให้กระตุก

การดูบอลแบบสดๆ เป็นสิ่งที่แฟนบอลทุกคนชอบ เพราะได้อรรถรส ได้บรรยากาศจริงๆ จากสนาม แต่ว่าถ้าดูแล้วกระตุก ภาพค้าง หรือเสียงไม่ตรงกับภาพ บอกเลยว่าเสียอารมณ์สุดๆ ยิ่งถ้าช็อตสำคัญกำลังจะยิงแล้วภาพหยุดไปดื้อๆ มันคือฝันร้ายของคอบอลเลยก็ว่าได้ คำถามคือ จะทำยังไงให้ดูบอลไม่กระตุก จะใช้เน็ตแรงอย่างเดียวพอไหม หรือมีเทคนิคอื่นที่ช่วยได้อีก วันนี้เราจะพาไปรู้จักวิธีดูบอลให้ลื่น ดูยังไงก็ไม่สะดุด ไม่ว่าจะดูผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก็ใช้ได้หมด

เช็กอินเทอร์เน็ตก่อนดูบอล สำคัญกว่าที่คิด

ก่อนดูบอลแต่ละนัด สิ่งแรกที่ควรทำคือเช็กความเร็วเน็ต อย่ามองข้ามเด็ดขาด เพราะเน็ตที่ไม่เสถียรคือศัตรูของการดูบอลสด

  • ถ้าคุณจะดูแบบ HD ให้เน็ตอยู่ที่อย่างน้อย 10 Mbps
  • ถ้าจะดู Full HD หรือ 4K ควรใช้เน็ตที่มีความเร็วตั้งแต่ 30 Mbps ขึ้นไป
  • ใช้ WiFi ที่คนอื่นไม่ได้แชร์เยอะ เพราะการแชร์เน็ตเยอะๆ จะทำให้ความเร็วตกแบบเห็นได้ชัด
  • ถ้ามีสาย LAN แนะนำให้เสียบเข้าเครื่องตรงๆ จะลื่นกว่าหลายเท่า

อย่าคิดว่าเน็ตมือถือแรงแล้วจะไม่มีปัญหา เพราะถ้าสัญญาณตกเมื่อไหร่ก็มีสิทธิ์กระตุกเหมือนกัน ดังนั้นเตรียมเน็ตให้พร้อมก่อนทุกเกม จะได้ดูแบบไม่มีสะดุด

ปิดแอปดูดเน็ตก่อนเชียร์บอล

หลายครั้งที่เราดูบอลแล้วกระตุก โดยไม่รู้ว่ามีแอปอื่นแอบใช้เน็ตอยู่ เช่น Google Drive อัปโหลดอยู่เบื้องหลัง Windows อัปเดตตัวเองโดยที่เราไม่รู้ หรือเปิดแอป TikTok ทิ้งไว้บนมือถืออีกเครื่อง ก่อนดูบอล ให้ปิดทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกให้หมด หรือจะรีสตาร์ทเครื่องก่อนก็ได้ จะช่วยให้เครื่องลื่นขึ้น และไม่ต้องมาแย่งอินเทอร์เน็ตกับใคร สำหรับคนที่แชร์ WiFi กับคนอื่น อย่าลืมบอกคนในบ้านว่า ขอเวลาสัก 2 ชั่วโมง หยุดใช้เน็ตแรงๆ เพราะเราเชียร์บอลอยู่

ใช้เว็บหรือแอปดูบอลที่เสถียร

ไม่ใช่ว่าทุกเว็บดูบอลสดจะเสถียรเหมือนกัน ถ้าคุณเลือกเว็บที่ไม่ได้คุณภาพ แม้เน็ตจะดีแค่ไหนก็ดูแล้วกระตุกอยู่ดี ให้เลือกเว็บที่มีชื่อเสียง มีลิงก์สำรอง มีระบบเปลี่ยนความละเอียดภาพได้เอง เช่น

  • มีให้เลือกระหว่าง SD HD และ Full HD
  • รองรับทั้งคอม มือถือ และแท็บเล็ต
  • มีระบบเสียงไทย เสียงอังกฤษ หรือเสียงสนามให้เลือก

ตัวอย่างคำค้นที่หาเว็บดูบอลลื่นๆ เช่น ดูบอลสด ไม่กระตุก 66 หรือ dooball live 88 เว็บเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้คนไทยใช้งานง่าย ไม่มีโฆษณารก ถ้าเป็นแอปก็ควรเลือกที่มีคะแนนดีในร้านแอป มีรีวิวเยอะ และอัปเดตบ่อย

ปรับคุณภาพภาพวิดีโอให้เหมาะกับความเร็วเน็ต

ถ้าเน็ตคุณไม่ได้แรงมาก อย่าฝืนดูแบบ HD เพราะจะยิ่งทำให้โหลดช้าและกระตุก ให้ปรับความละเอียดภาพลงมาเป็น 480p หรือ 720p ซึ่งยังชัดอยู่ และดูได้แบบลื่นๆ ไม่มีสะดุด เว็บดีๆ จะมีปุ่มให้เลือกความละเอียดแบบอัตโนมัติ หรือให้ผู้ชมเลือกเองได้ แบบนี้ยืดหยุ่นดีมาก บางเว็บฉลาดมาก ถึงขั้นปรับให้เองโดยอัตโนมัติตามความเร็วเน็ตของคุณ ซึ่งทำให้การดูบอลไม่มีปัญหาเลย

ใช้เบราว์เซอร์ที่ลื่นและอัปเดตเวอร์ชันล่าสุด

หากดูผ่านคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก แนะนำให้ใช้เบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome Firefox หรือ Microsoft Edge ที่เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพราะมันจะรองรับวิดีโอแบบสตรีมมิ่งได้ดี อย่าลืมล้างแคช ล้างคุกกี้เป็นระยะ เพราะข้อมูลเก่าๆ จะทำให้โหลดเว็บช้าลงโดยไม่รู้ตัว ถ้าเบราว์เซอร์กระตุก ลองเปลี่ยนไปใช้อีกตัวดู เช่นจาก Chrome ไปเป็น Edge บางครั้งปัญหาก็หายเลย

ปิดการประหยัดพลังงานตอนดูบอล

ถ้าคุณดูบอลผ่านมือถือหรือโน้ตบุ๊ก แล้วเปิดโหมดประหยัดแบตไว้ มันจะจำกัดความแรงของเครื่อง รวมถึงความเร็วของวิดีโอที่โหลดเข้ามา แนะนำให้เสียบชาร์จไว้ และปิดโหมดประหยัดพลังงาน เพื่อให้เครื่องทำงานเต็มที่ โดยเฉพาะถ้าดูผ่านแอปหรือดูแบบ Full Screen อย่าลืมว่าเครื่องที่พร้อมทำงานจะทำให้คุณได้อรรถรสในการเชียร์บอลมากขึ้นกว่าครึ่ง

สรุป

ถ้าคุณอยากดูบอลให้ลื่นไม่กระตุก สิ่งที่ต้องดูไม่ใช่แค่ความแรงของเน็ต แต่รวมถึงเว็บที่ใช้ดู แอปที่เปิดไว้พร้อมกัน โปรแกรมเบื้องหลังในเครื่อง และการตั้งค่าที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ของคุณ ทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ แล้วคุณจะสามารถดูบอลได้แบบไม่มีสะดุด ตั้งแต่นาทีแรกจนหมดเวลาทดเจ็บ ลองเริ่มจากวันนี้เลย เตรียมเน็ตให้พร้อม ปิดแอปไม่จำเป็น เลือกเว็บดูบอลที่เชื่อถือได้ แล้วไปเชียร์ทีมโปรดแบบลื่นๆ ไปพร้อมกัน

บทความเเนะนำวันนี้